ปัญหาที่คนทำ IF เพื่อลดน้ำหนักเจอ ที่ทำแล้วผิดพลาดเพราะอะไร ? ทำแล้วน้ำหนักไม่ลด ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ วันนี้เรามีคำตอบมาบอกกันว่าอะไรที่ห้ามกิน และควรกินอะไร สำหรับคนที่ทำ IF เพื่อลดน้ำหนัก
การทำ IF ถ้าใครยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ย่อมาจาก Intermittent Fasting ก็คือเราจะเปลี่ยนนิสัยการกินของเรา ให้ช่วงที่กินกับช่วงที่ไม่ได้กินอาหารที่ไม่มีแคลอรี่ เช่น น้ำเปล่า ชา กาแฟดำ สำหรับมือใหม่ทำ IF ช่วง Fasting ต้องดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆ คนที่ทำ IF จนเป็นโปรหลายๆ คนพูดว่า ช่วงที่เราไม่ได้กินอาหารที่มีแคลอรี่เราต้องดื่มน้ำเปล่าจนถึงขั้นว่าปัสสาวะใส ดังนั้นต้องกินน้ำให้เยอะพอสมควรเลย
หลายๆ คน ทำ IF เพื่อสุขภาพไม่ได้ต้องการลดน้ำหนัก อยากหน้าเด้ง อยากสมองสดใสป้องกันอัลไซเมอร์ และก็จะมีกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนัก คุณมาถูกที่แล้ว ไปดูพร้อมกันเลย
16/8 มีความหมายว่าอะไร 16 คือช่วงโมงที่คุณจะ Fasting ช่วงเวลาที่ไม่กินอาหารที่มีแคลอรี่ ส่วน 8 คือ ช่วงเวลาที่สามารถกินอะไรก็ได้ แต่จริงๆ แล้วมีอาหารบางตัวที่กินแล้วทำให้น้ำหนักตัวลงไม่เร็วเท่าที่ควร นั่นก็คือ อะโวคาโด
ช่วงที่ทำ IF ควรเลี่ยงการกินอะโวคาโดไปก่อน จนกว่าจะได้น้ำหนักเป้าหมาย เวลาทำ IF หลายคนจะบอกว่าช่วงกินจะกินอะไร เพราะเค้าห้ามแค่ช่วงเวลา
ก็อยากฝากว่า ปัจจุบันคนหันมาสนใจการลดน้ำหนักแบบ IF เยอะ ถ้าอยากเปิดใจก็อยากใลองกินพืชผักมากขึ้น เพราะคุณจะได้สารต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ได้โปรตีนที่ดี แล้วก็เข้าไปในร่างกายส่วนไขมันที่ดีอย่างอะโวคาโดก็รอซักนิด ได้น้ำหนักเป้าหมายแล้วค่อยกลับมากินก็ยังไม่สาย มันไม่หนีไปไหนมันก็ยังอยู่ตรงนี้ ยิ่งคนที่ต้องการให้น้ำหนักลงเร่งด่วน เช่น คนที่จะแต่งงาน หรือฉันจะไปงานแต่งเพื่อน 2 สิ่งนี้เป็นที่สร้างความเคร่งเครียดให้สาวๆ เหลือเกินคุณลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนลดน้ำมัน ไม่กินหวาน อาจทำ IF 19/5 และงดอะโวคาโด ก็จะทำให้คุณได้น้ำหนักเป้าหมายได้เร็วมากขึ้น
ฝากไว้ซักนิด* IF 19/5 น้ำหนักลดลงเร็วมากจนน่าตกใจ ลองทำแล้วได้ผลดีมากๆ ต้องลองกันดูนะ แต่ชวงแรกแนะนำเป็น 16/8 ก่อนนะ